Feeds RSS
Feeds RSS

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553

ข้าวเหนียวมูน (Thai sticky rice with coconut milk)


เครื่องปรุง + ส่วนผสม

ข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม
หัวกะทิ 450 กรัม
เกลือป่น 3/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 550 กรัม
ใบเตย 3-5 ใบ
ถั่วทอง 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำใบเตย, น้ำแครอท, น้ำดอกอัญชัญหรือสีผสมอาหารตามชอบ

วิธีทำ

1. นำข้าวเหนียวไปล้างทำความสะอาดและแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำ (กรณีต้องการทำข้าวเหนียวที่มีสีต่างๆ ก็ให้ใส่สีลงไปในน้ำที่แช่ค้างคืนไว้ด้วย)

2. นำผ้าขาวบางรองไว้ในซึ้งหรือหม้อนึ่ง แล้วจึงนำข้างเหนียววางลงบนผ้าขาวบาง จากนั้นนำไปนึ่งจนข้าวเหนียวสุก

3. ในหม้อขนาดเล็ก ใส่น้ำตาล, เกลือป่น (3/4 ช้อนชา) และหัวกะทิ และนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จากนั้นจึงใส่ใบเตยลงไป ทิ้งไว้สักพักจึงปิดไฟ

4. ในชามขนาดกลาง ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งไว้จนสุกดีแล้วลงไป จากนั้นจึงใส่น้ำกะทิที่เคี่ยวไว้ในขั้นตอนที่สามตามลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันทั่ว และทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที ก็สามารถนำไปเสริฟได้ (เวลาเสริฟอาจโรยหน้าด้วยถั่วทอง)

หมายเหตุ : ข้าวเหนียวมูนสามารถนำไปทานกับมะม่วงสุก หรือทานกับสังขยา, หรือทานเป็นข้าวเหนียวมูนหน้ากุ้ง + หน้าปลาแห้ง และอื่นๆ

ข้าวเหนียวมูนหน้ากุ้ง (Kao Neaw Moon Na Koong)


เครื่องปรุง ส่วนผสม


กุ้งสด 100 กรัม
มะพร้าวขาวขูดฝอย 80 กรัม
รากผักชีหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 50 กรัม
ใบมะกรูด 5 ใบ (ซอยละเอียดเป็นเส้นๆ)
สีผสมอาหารสีส้ม
ข้าวเหนียวมูน ส่วนผสม + วิธีทำ

วิธีทำ

1. ทำความสะอาดกุ้ง ปอกเปลือกออก ผ่าหลังและเอาเส้นสีดำออก จากนั้นจึงนำไปสับพอหยาบ

2. นำรากผักชีกับพริกไทยไปโขลกให้ละเอียด

3. ผสมมะพร้าวขูดขาวกับสีผสมอาหาร (2-3 หยดก็พอ) คลุกให้สีผสมกันทั่วกับมะพร้าว

4. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ใส่รากผักชี+พริกไทยที่โขลกเตรียมไว้ในขั้นตอนที่สอง ลงไปผัดจนหอม จากนั้นจึงใส่กุ้งสับ, น้ำตาลทรายและ เกลือลงไปผัดต่อ ผัดจนกุ้งสุกและน้ำตาลละลายดี จึงปิดไฟ

5. เวลาเสริฟ ตักข้าวเหนียวมูนใส่จาน เติมหน้ากุ้งลงไปบนข้าวเหนียวมูนและโรยหน้าด้วยใบมะกรูด ฝอย

ข้าวเหนียวมูนหน้าปลาแห้ง (Kao Neaw Moon Na Pla)


เครื่องปรุง ส่วนผสม

เนื้อปลาตากแห้ง 100 กรัม
หอมแดงซอย 80 กรัม
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 150 กรัม
ข้าวเหนียวมูน ส่วนผสม + วิธีทำ

วิธีทำ

1. นำปลาแห้งไปอบจนกรอบ แกะเอาก้างปลาออก (ถ้ามีก้างใหญ่ๆ) ให้เหลือแต่เนื้อปลา แล้วนำไปโขลกให้เนื้อฟู

2. ตั้งกระทะบนไฟอ่อนๆ นำหอมแดงไปเจียวพอเหลืองกรอบ (ระวังไหม้) ปิดไฟ จึงนำออกมาสะเด็ดน้ำมัน

3. นำน้ำมันที่เหลือจากการเจียวหอมไปใส่ในกระทะและตั้งบนไฟร้อนปานกลาง ใส่เนื้อปลาที่เตรียมไว้ ในขั้นตอนที่หนึ่งลงไปผัดจนปลากรอบ จากนั้นใส่เกลือลงไปผัดต่อ (ควรชิมด้วย ถ้าปลาแห้งเค็มมาก ก็ควรลด ปริมาณเกลือลง) เสร็จแล้วจึงปิดไฟ

4. นำเนื้อปลาที่ผัดแล้วไปผสมกับหอมเจียวและน้ำตาลทราย เคล้าให้เข้ากันดี

5. เวลาเสริฟ ตักข้าวเหนียวมูนใส่จาน เติมหน้าปลาลงไปบนข้าวเหนียวมูน พร้อมเสริฟได้ทันที

ข้าวเหนียวมูนหน้าสังขยา (Sticky rice with thai custard)


เครื่องปรุง ส่วนผสม

ไข่เป็ด 2 ฟอง
กะทิ 100 กรัม
น้ำตาลปึก 100 กรัม
ใบเตย
ข้าวเหนียวมูน ส่วนผสม + วิธีทำ

วิธีทำ

1. นำไข่เป็ดผสมกับกะทิและน้ำตาล คนจนส่วนผสมเข้ากันดีและน้ำตาลละลาย หลังจากนั้น ใช้ใบเตยขยำให้ส่วนผสมขึ้นฟู เสร็จแล้วกรองด้วยผ้าขาวบางเอาสิ่งสกปรกออก

2. นำส่วนผสมเทใส่แบบหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 20 นาทีหรือจนสุกทั่ว ปิดไฟ นำออกมาทิ้งไว้ให้เย็น

3. เวลาเสริฟ ตักข้าวเหนียวมูนใส่จาน เติมหน้าสังขยาลงไปบนข้าวเหนียวมูนพร้อมเสริฟเป็นของว่าง ไ้ด้ทันที

ข้าวตูมะพร้าวอ่อน (Kamon Kao Too)

เครื่องปรุง ส่วนผสม

ข้าวสุกตากแห้ง 250 กรัม
น้ำตาลมะพร้าว 250 กรัม
น้ำกะทิ 50 กรัม
มะพร้าวขูดฝอย 300 กรัม
เนื้อมะพร้าวอ่อน 120 กรัม
น้ำมะพร้าวอ่อน 200 กรัม
เทียนอบ

วิธีทำ

1. นำข้าวสุกไปตากให้แห้ง ถ้าตากแล้วไม่แห้งดี สามารถนำไปอบได้ เมื่อแห้งดีแล้ว นำไปคั่วทีละน้อย โดยใช้ไฟอ่อนๆ เสร็จแล้วนำไปโม่บดให้ละเอียด

2. ตั้งกระทะทองเหลือง (หรือใช้กระทะเทฟลอนแทนก็ได้) บนไฟอ่อนๆ ใส่กะทิ, น้ำตาลมะพร้าว, มะพร้าวขูดฝอย, น้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวลงไปเคี่ยวจนกระทั่งส่วนผสมข้นเหนียว

3. ใส่ผงข้าวคั่วลงไปในกระทะและกวนต่อจนเหนียวพอปั้นได้ ปิดไฟ ทิ้งไว้ให้หายร้อน

4. อัดส่วนผสมใส่แบบที่เตรียมไว้ จากนั้นนำไปอบควันเทียนให้หอม เสริฟรับประทานได้ทันที หรือเก็บ ใส่ภาชนะมิดชิดเก็บไว้รับประทานภายหลังได้

ขนมกลีบลำดวน (Kanom Kleeb Lum Duan)


เครื่องปรุง ส่วนผสม

แป้งสาลี 100 กรัม
น้ำมันพืช 50 กรัม (หรือเนยขาว)
น้ำตาลไอซิ่ง 80 กรัม
สีผสมอาหาร (แล้วแต่ชอบ)
เทียนอบ

วิธีทำ

1. ผสมแป้งสาลีกับน้ำตาลเข้าด้วยกัน นำไปร่อน 2 ครั้ง เสร็จแล้วใส่น้ำมันพืช (หรือเนยขาว) ลงไปผสม นวดจนส่วนผสมทั้งสามเข้ากันดี

2. ปั้นแป้งเป็นลูกกลมๆขนาดเท่าๆกัน ใช้มีดคมๆแบ่งแป้งเป็น 4 ส่วนเท่าๆกัน

3. จับวางเป็น 3 กลีบ ส่วนอีก 1 กลีบที่เหลือให้ปั้นเป็นลูกกลมๆวางตรงกลางกลีบทั้งสามเป็นเกสร ก็จะได้รูปทรงดอกไม้ ทำเช่นนี้จนแป้งหมด เรียงไว้ในถาด

4. นำแป้งไปอบที่อุณหภูมิประมาณ 300 องศาฟาเรนไฮต์ประมาณ 10 - 15 นาทีหรือจนสุก จะได้ขนมที่มีลักษณะผิวนวล กรอบ นำไปอบควันเทียนให้หอม ก็พร้อมรับประทานได้ทันที

หมายเหตุ : ถ้าต้องการกลีบหรือเกสรที่ต่างสีกัน ก็ให้แยกส่วนผสมแป้งในขั้นตอนที่หนึ่ง แล้วผสมสีตาม ที่ชอบขณะใส่น้ำมันพืชลงไปนวด ควรใช้สีโทนอ่อนจะน่ารับประทานมากกว่าสีเข้ม

วุ้นสังขยา (Thai Custard Jelly)


เครื่องปรุง ส่วนผสม

วุ้นผง 10 กรัม
น้ำลอยดอกมะลิ 450 กรัม
น้ำตาลทราย 150 กรัม
หัวกะทิ 100 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ใบเตย

วิธีทำ

1. ผสมหัวกะทิกับน้ำตาลและไข่ไก่ โดยใช้ใบเตยขยำให้ส่วนผสมเข้ากัน และน้ำตาลละลาย จากนั้นนำไป กรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อเอาสิ่งสกปรกออก

2. ตั้งกระทะทองเหลืองบนไฟอ่อนๆ ใส่น้ำลอยดอกมะลิและวุ้นผงลงไป คนจนละลายเข้ากันดี จากนั้นจึง ใส่ส่วนผสมไข่กะทิ (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1 ลงไป) เร่งไฟให้แรงขึ้น รอจนส่วนผสมเดือด คนส่วนผสม ต่อเนื่องจนวุ้นมีลักษณะเหนียวเป็นยางมะตูม จึงปิดไฟ

3. เทส่วนผสมวุ้นสังขยาลงในแบบหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้ ทิ้งไว้ให้หายร้อนสักพัก จึงใส่ตู้เย็น

4. เคาะวุ้นออกจากแบบ จัดใส่จานเสริฟ พร้อมรับประทานได้ทันที (ถ้ายังไม่รับประทาน ควรเก็บ ไว้ในตู้เย็นก่อน)

มันสำปะหลังเชื่อม (Cassavas in syrup)


เครื่องปรุง ส่วนผสม

มันสำปะหลัง 800 กรัม
น้ำเปล่า 1000 กรัม
น้ำตาลทราย 300 กรัม
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ 100 กรัม
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ทำความสะอาดมันสำปะหลัง ปอกเปลือกและหั่นเป็นท่อนๆ

2. นำกระทะทองเหลืองไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำเปล่าลงไปต้ม รอเดือดจึงใส่มันสำปะหลังลงไปต้ม

3. ต้มจนมันสำปะหลังเกือบสุก ใส่น้ำตาลทรายและน้ำมะนาวลงไป กลับข้างไปมาอย่างระมัดระวัง เชื่อมจนมันสุกทั่ว (ผิวจะฉ่ำน้ำตาล และใส เป็นเงา) จึงปิดไฟ

4. ทำน้ำราดกะทิ โดยใส่น้ำกะทิ, แป้งข้าวเจ้าและเกลือลงในหม้อเล็ก ตั้งบนไฟอ่อนๆจนเข้ากันดี ปิดไฟและพักไว้

5. ตักมันสำปะหลังเชื่อมใส่จานเสริฟ ราดหน้าด้วยน้ำกะทิ รับประทานได้ทันทีี

สาคูเปียกมะพร้าวอ่อน (Kanom Sakoo ma-prao)


เครื่องปรุง ส่วนผสม

สาคู 200 กรัม
น้ำตาลทราย 250 กรัม
เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่นเป็นชิ้น 100 กรัม
น้ำเปล่า 900 กรัม
หัวกะทิ 100 กรัม
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำน้ำเปล่าใส่ลงในหม้อและตั้งบนไฟร้อนปานกลาง ขณะรอน้ำเดือดนำสาคูไปล้างในน้ำเปล่าอย่างรวดเร็ว

2. เมื่อน้ำเดือด จึงใส่สาคูลงในหม้อ คนอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เม็ดสาุคูเกาะตัวกัน ต้มจนเกือบสุก โดยเม็ดสาคูจะมีลักษณะใส จะเหลือจุดขาวๆภายในเม็ดสาคู

3. ใส่น้ำตาลทรายลงไปในหม้อ คนจนน้ำตาลละลายจึงใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้งจึงปิดไฟ

4. ทำน้ำราดกะทิ โดยใส่น้ำกะทิ, แป้งข้าวเจ้าและเกลือลงในหม้อเล็ก ตั้งบนไฟอ่อนๆจนเข้ากันดี ปิดไฟและพักไว้

5. ตักสาคูมะพร้าวอ่อนใส่ถ้วย ราดหน้าด้วยน้ำกะทิ พร้อมเสริฟรับประทานได้ทันที

ข้าวเหนียวเปียกลำใย (Sweet Sticky Rice with Longan)


เครื่องปรุง ส่วนผสม

ข้าวเหนียว 150 กรัม
ลำใย 150 กรัม
น้ำเปล่า 1 ลิตร
น้ำตาลทราย 200 กรัม
ข้าวโพดนึ่งสุกแกะเป็นเม็ด 50 กรัม
หัวกะทิ 100 กรัม
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำข้าวเหนียวไปซาวในน้ำสะอาด จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำให้แห้ง

2. ปอกเปลือกลำใย คว้านเอาเม็ดออก ทำความสะอาดและล้างด้วยน้ำเปล่า จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำให้แห้ง

3. ตั้งน้ำในหม้อด้วยไฟร้อนปานกลาง รอจนน้ำเดือดจึงใส่ข้าวเหนียวลงไป คนอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ข้าวเหนียวติดกันเป็นก้อน เมื่อข้าวเหนียวเริ่มสุก จึงใส่น้ำตาลทรายลงไปรอจนเดือดอีกครั้งและน้ำตาลทราย ละลายหมด ใส่ลำใยและข้าวโพดลงไป คนส่วนผสมทุกอย่าให้เข้ากัน ปิดไฟ

4. ทำน้ำราดกะทิ โดยใส่น้ำกะทิ, แป้งข้าวเจ้าและเกลือลงในหม้อเล็ก ตั้งบนไฟอ่อนๆจนเข้ากันดี ปิดไฟและพักไว้

5. ตักข้าวเหนียวเปียกลำใยใส่ถ้วย ราดหน้าด้วยน้ำกะทิ พร้อมเสริฟรับประทานได้ทันทีี

ขนมวุ้นมะพร้าวอ่อน (Kanom Woon ma-pro)


เครื่องปรุง + ส่วนผสม

หัวกะทิ 200 กรัม
วุ้นผง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 500 กรัม
น้ำตาลทราย 150 กรัม
เนื้อมะพร้าวอ่อน 50 กรัม
น้ำมะพร้าวอ่อน 200 กรัม

วิธีทำ

1. นำหัวกะทิใส่หม้อและนำไปตั้งบนไฟอ่อนๆ ใส่เกลือลงไป คนให้ละลาย ปิดไฟทันที (อย่าให้กะทิแตกมัน)

2. ตั้งกระทะทองเหลือง (หรือใช้กระทะเทฟลอนแทนก็ได้) บนไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำเปล่าและวุ้นผง ลงไป รอจนเดือดใส่น้ำตาลทรายลงไป คนจนละลายจึงลดไฟลง

3. นำเนื้อมะพร้าวและน้ำมะพร้าวไปปั่นให้เข้ากัน แล้วใส่ลงในส่วนผสมวุ้น (ในข้อ 2) ใช้ไฟอ่อนๆ เคี่ยวอีก สักพัก จึงใส่กะทิที่เตรียมไว้ในข้อหนึ่งลงไป คนให้เข้ากันเสร็จึงปิดไฟ (หมายเหตุ : น้ำมะพร้าวอ่อนต้องหวาน เพราะเมื่อนำไปผสมทำวุ้นแล้วจะทำให้รสชาตเเปรี้ยวเหมือนวุ้นเสีย ถ้าไม่มีน้ำมะพร้าวอ่อนหวานให้ใช้น้ำลอยดอกไม้แทน)

4. เทส่วนผสมวุ้นลงในแบบหรือพิมพ์ที่เตรียมไว้ ทิ้งไว้ให้หายร้อน จึงนำเข้าไปแช่ในตู้เย็น

5. เคาะวุ้นออกจากแบบ จัดใส่จาน เสริฟเป็นของว่างในวันสบายๆ

ขนมถั่วแปบ (Kanom Tua Pab)


เครื่องปรุง ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกมะลิหรือน้ำใบเตยข้น 1/2 ถ้วยตวง
เนื้อมะพร้าวขูด 1 ถ้วยตวง
ถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุก 2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
งาขาวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
สีผสมอาหาร (สีตามความชอบ)
เกลือป่น

วิธีทำ
1. เตรียมทำไส้ถั่วโดย นำถั่วเขียวเลาะเปลือกไปแช่ด้วยน้ำร้อนประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก พักทิ้งไว้ (แบ่งถั่วนึ่งออกเป็น สองส่วน ส่วนที่หนึ่งใช้ใส่ไส้ และส่วนที่สอง ใช้คลุกกับขนมที่ห่อไส้แล้ว)

2. นำมะพร้าวขูดไปผสมกับเกลือป่นเล็กน้อย และนำไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 3 - 5 นาทีให้นุ่มจึงปิดไฟ พักไว้

3. นำแป้งข้าวเหนียวไปนวดกับน้ำลอยดอกมะลิ (หรือน้ำใบเตย)จนเนื้อเนียนเข้ากันทั่ว แบ่งเป็นสัดส่วนตามจำนวนสีที่ต้องการ จากนั้นจึง ใส่สีผสมอาหารลงไป (ควรใช้โทนอ่อนจะน่ารับประทานมากกว่าสีเข้ม ) แล้วจึงนวดอีกครั้งจนสีกับแป้งเข้ากันดี แบ่งปั้นเป็นก้อนกลม (เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว) แล้วกดให้แบน ระหว่างปั้นให้นำผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆ มาคลุมไว้ก่อน

4. ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่แป้งที่ปั้นไว้ลงไป เมื่อแป้งสุกจะลอยขึ้น ใช้ทัพพีที่มีรูตักออกมาจากหม้อ แล้วนำไปคลุกกับมะพร้าวขูดที่นึ่งเตรียมไว้ในขั้นตอนที่สอง จากนั้นจึงบีบแป้งให้แบน ใส่ไส้ถั่วลงไป พับครึ่ง กดปลายทั้งสองข้างให้สนิท แล้วนำไปคลุกกับมะพร้าวขูดและถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุก (ส่วนที่เตรียมไว้สำหรับคลุก)

5. จัดใส่จาน โรยหน้าด้วยงาขาวคั่วและน้ำตาล พร้อมเสริฟเป็นของว่างได้ทันที

ไอศกรีมชาเขียว


1. ถ้าคุณชอบทานชาเขียวไม่ว่าแบบร้อนหรือเย็น และถ้าคุณชอบทำขนมทานเอง คุณต้องลองทำไอศกรีมชาเขียวทานเอง ไม่ยากถ้าจะลองทำ แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องมีเครื่องปั่นไอศกรีม ส่วนผสมที่จะต้องใช้คือวิปปิ้งครีม 25 กรัม นมสด 20 กรัม น้ำตาลทราย 75 กรัม ไข่ไก่ 3 ฟอง ผงชาเขียว 10 กรัม

2. ต้มนมสด วิปปิ้งครีม น้ำตาลทรายให้เดือด ส่วนไข่นำมาตีให้ขึ้นฟู แล้วนำมาผสมกัน คนส่วนผสมของไข่กับนมให้เข้ากัน จากนั้นละลายผงชาเขียวกับน้ำเล็กน้อย แล้วเทผสมลงไปในส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้ง จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้กรองด้วยผ้าสาลู

3. นำส่วนผสมที่กรองได้แล้วเข้าเครื่องปั่นไอศกรีม ตีจนเนื้อครีมแข็งตัวหรือประมาณ -9 องศา จะปรับส่วนผสมให้รสเข้มจางอ่อนได้ตามต้องการ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟรับประทาน

ไอศครีมทอด


ส่วนผสม ไอศครีมทอด
1. ไอศครมรสที่ชอบ เราสามารถหาซื้อได้จากห้างทั่วไปที่ขายเป็นกล่อง
2. ซีเรียลอาหารเช้า (corn flakes) บดละเอียด สำหรับเคลือบไอศครีม
3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
4. Whipped cream และ Topping สำหรับตกแต่งหน้าไอศรีม

วิธีทำ ไอศครีมทอด
1. ตักไอศครีมที่เย็นจัด มาคลุกบน corn flakes ซีเรียลบดละเอียด
2. นำไอศครีมที่เคลือบด้วย corn flakes ชุบลงในไข่ที่ตีไว้ให้ทั่วทั้งลูก
3. ชุบ corn flakes ให้ทั่วอีกครั้ง โดยให้แน่ใจว่า corn flakes เคลือบผิวของไอศรีมทุกจุด
4. นำไอศครีม กลับเข้าไปแช่ในช่องแข็งของตู้เย็น เพื่อให้ไอศครีมแข็งตัวที่สุด
5. ตั้งน้ำมันร้อน (ใช้น้ำมันใหม่เท่านั้น ห้ามผ่านการทอดของคาวมาก่อน)
6. นำไอศครีมออกจากตู้เย็น ลงจุ่มในน้ำมันประมาณ 10 – 15 วินาที
7. นำขึ้นใส่ภาชนะ ตกแต่งด้วย topping และ Whipped cream รับประทานทันที

Labels

กล้วยไข่เชื่อม (1) กล้วยไข่บวชชี (1) ขนมกลีบลำดวน (1) ขนมถั่วแปบ (1) ขนมเผือก (1) ขนมวุ้นมะพร้าวอ่อน (1) ขนมหม้อแกงเผือก (1) ขนมหวาน (4) ขนมหวานไทย (12) ข้าวตูมะพร้าวอ่อน (1) ข้าวเหนียวเปียกลำใย (1) ข้าวเหนียวมูน (1) ข้าวเหนียวมูนหน้ากุ้ง (1) ข้าวเหนียวมูนหน้าปลาแห้ง (1) ข้าวเหนียวมูนหน้าสังขยา (1) ค็อกเทลแสนหวาน (1) โค้กทอด (1) ดอกลำดวน (1) ตะโก้แห้ว (1) ทับทิมกรอบรวมมิตร (1) ในเทกซัส (1) บัวลอยเผือกมะพร้าวอ่อน (1) มันสำปะหลังเชื่อม (1) เมนูใหม่ที่กำลังอินเทรนด์สุดๆ (1) รับลมหนาว (1) โรลมูสเลมอน (1) วุ้นสังขยา (1) สังขยาใบเตย (1) สาคูแคนตาลูป (1) สาคูเปียกมะพร้าวอ่อน (1) หอมหวานซ่อนเปรี้ยว (1) ไอศกรีมกะทิ (1) ไอศกรีมชาเขียว (1) ไอศกรีมชาไทย (1) ไอศกรีมนมเย็น (1) ไอศครีมทอด (1) Strawberry Vodka Jelly (1)

..